
10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ คือ ประกันประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองทางการเงิน สำหรับค่ารักษาพยาบาลและบริการด้านการรักษาพยาบาล ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องบุคคลและครอบครัวจากค่าใช้จ่ายสูง ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล การรักษาตัวในโรงพยาบาล ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอื่นๆ

10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
มหาทรัพย์กฤษณ์ ขอแนะนำ 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ เพื่อที่คุณจะได้มีข้อมูลนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ได้ดีขึ้น
1. ตัวเลือกความคุ้มครอง: ทำการศึกษาข้อมูลของแผนสุขประกันสุขภาพที่คุณสนใจว่า มีการให้ความคุ้มครองรองรับโรคต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง เช่น รองรับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดัน โรคไตหรือโรคอื่น ๆ เป็นต้น เพราะแผนประกันแต่ละประเภทมีกฎเฉพาะเกี่ยวกับความคุ้มครอง ดังนั้นการทำความรู้จักกับโรคที่รองรับ จะทำให้คุณมีข้อมูลนำมาใช้ในการตัดสินใจในการซื้อประกันได้มากขึ้น
2. ผลประโยชน์ความคุ้มครอง: ตรวจสอบผลประโยชน์ที่ครอบคลุมในแผนประกันสุขภาพ เช่น การรักษาตัวในโรงพยาบาล การพบแพทย์ ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ การดูแลป้องกัน และบริการสุขภาพจิต
3. ค่าลดหย่อนและค่าชดเชย: การทำความรู้จักในเรื่องของ จำนวนเงินค่าลดหย่อน (จำนวนเงินที่คุณจ่ายจนหมดก่อนที่ประกันจะเริ่ม) และค่าชดเชย เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ให้คุณเปรียบเทียบแผนกับตัวเลือกการหักลดหย่อนและการจ่ายร่วมแบบต่าง ๆ เพื่อค้นหาแผนที่เหมาะกับงบประมาณของคุณให้ได้มากที่สุด
4. ผู้ให้บริการในเครือข่าย: ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (โรงพยาบาล คลินิก) ที่รวมอยู่ในเครือข่ายของแผนการรักษา เพราะคุณจะได้มีตัวเลือกในการรักษามากขึ้น โดยเฉพาะในยามที่คุณไม่สบายในขณะที่เดินทางไปต่างจังหวัด หรือคุณมีอาการไม่สบายเพียงแค่เล็กน้อย ไม่อยากจะตรวจที่โรงพยาบาล ก็สามารถเดินทางไปตรวจที่คลินิกที่อยู่ในเครือข่าย ที่รองรับการรักษาในเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้
5. ต้นทุนเบี้ยประกันภัย: พิจารณาต้นทุนเบี้ยประกันภัยรายเดือนสำหรับแผนประกันสุขภาพ โดยการเบี้ยประกันภัยที่ต่ำ อาจจะดีต่อการผ่อนชำระรายเดือน แต่ความคุ้มครองที่คุณจะได้รับก็จะลดน้อยลงด้วย
ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดีว่า คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง หรือคุณมีความกังวลในเรื่องของการเป็นโรคหรือมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้แนะนำให้คุณเลือกซื้อเบี้ยประกันที่มีราคาสูงขึ้นมาอีกสักหน่อยดีกว่า จะได้ครอบคลุมและสร้างความอุ่นใจให้กับคุณในยามที่เจ็บป่วย
6. สามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เป็นผู้ป่วยในเท่านั้นหรือไม่: ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันสุขภาพส่วนใหญ่ มักจะรองรับอาการเจ็บป่วยสำหรับผู้ที่เป็นผู้ป่วยในที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่บางกรมธรรม์ก็อาจจะรองรับการรักษาอาการเจ็บป่วยในฐานะผู้ป่วยนอกด้วย แต่ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงกว่า
7. ชำระเบี้ยเป็นรายเดือนต่างกับรายปีหรือไม่: การชำระค่าเบี้ยประกันรายเดือนมักจะ ได้รับสิทธิ์ลดค่าเบี้ยประกัน ที่ถูกกว่าการชำระค่าเบี้ยประกันรายเดือน เพราะเป็นการจ่ายเต็มจำนวน ทำให้ทางบริษัทประกันมั่นใจในเรื่องของการจ่ายค่าเบี้ยประกัน จึงได้ให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าในส่วนนี้
8. ระยะเวลาในการรอคอยหลังจากซื้อประกันสุขภาพ: ส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาในการรอคอยประกันสุขภาพ โรคเล็ก ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 30 วัน ส่วนโรคที่มีความร้ายแรงค่อนข้างสูง ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้วิธีการรักษาอื่น อาจจะต้องใช้เวลาระยะเวลารอคอยนานกว่า 90 วัน ตัวประกันถึงจะเริ่มให้ความคุ้มครอง กรณีคุณเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมาในระหว่างช่วงระยะเวลารอคอย ประกันก็ยังไม่ให้ความคุ้มครอง
9. ประกันสุขภาพ คุ้มครองโรคอะไรบ้าง: ประกันสุขภาพเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องของอาการเจ็บป่วยที่มาจากสุขภาพโดยเฉพาะ เงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์นั้นก็จะแตกต่างกันไป บางกรมธรรม์อาจจะรองรับ ครอบคลุม 25 โรคร้ายแรง แต่บางกรมธรรม์ ก็อาจให้ความคุ้มครองมากถึง 30 โรคร้ายแรง
10. วงเงินในการรักษาแต่ละครั้ง มีการจำกัดวงเงินหรือไม่: ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูที่เงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ ยกตัวอย่างเช่น วงเงินในการเบิกค่าสินไหมประกันสุขภาพรายปี โดยรวมอาจจะอยู่ที่ 500,000 บาท และมีเงื่อนไข ในการเบิกเพื่อรักษาตัว ต่อครั้งอยู่ที่ 50,000 บาท เป็นต้น

มีประกันสุขภาพที่ได้รับจากทางภาครัฐอยู่แล้ว ทำไมถึงต้องซื้อประกันเอกชนเพิ่มเติม
คุณผู้อ่านหลาย ๆ คนอาจจะมีประกันสุขภาพพื้นฐานที่ได้รับจากทางภาครัฐอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ประกันสังคมมาตรา 33 ประกันสังคมมาตรา 39 แต่ทางมหาทรัพย์กฤษณ์ขอแนะนำว่าการมีประกันเอกชนเพิ่มเข้าไป ก็จะช่วยทำให้คุณนั้นเกิดได้รับประโยชน์ที่ดีขึ้นในยามที่เจ็บป่วย
- มีทางเลือก ในการเลือกโรงพยาบาลได้มากขึ้น โดยคุณอาจจะเลือกเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน ใกล้บ้านหรือเลือกประกันที่ครอบคลุมการเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชนในทุกจังหวัดของประเทศไทย เป็นต้น
- ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว เพราะประกันเอกชนเป็นประกันที่คุณได้มากกว่า ทำให้คุณได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ให้ความสบายใจจากการได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุด

และนี่คือ 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในชีวิตของเราทุกคน เพราะการมีรากฐานที่มาจากสุขภาพที่แข็งแรง จะทำให้ชีวิตของคุณนั้นแข็งแรงตามไปด้วย ดังนั้นการลงทุนซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพดี ๆ สักตัว จึงเป็นอีกหนึ่งหลักประกันที่ดีที่สุดให้กับชีวิต
สารบัญเนื้อหา

10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
สารบัญเนื้อหา
10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพ คือ ประกันประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองทางการเงิน สำหรับค่ารักษาพยาบาลและบริการด้านการรักษาพยาบาล ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องบุคคลและครอบครัวจากค่าใช้จ่ายสูง ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล การรักษาตัวในโรงพยาบาล ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอื่นๆ

10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
มหาทรัพย์กฤษณ์ ขอแนะนำ 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ เพื่อที่คุณจะได้มีข้อมูลนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ได้ดีขึ้น
1. ตัวเลือกความคุ้มครอง: ทำการศึกษาข้อมูลของแผนสุขประกันสุขภาพที่คุณสนใจว่า มีการให้ความคุ้มครองรองรับโรคต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง เช่น รองรับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคความดัน โรคไตหรือโรคอื่น ๆ เป็นต้น เพราะแผนประกันแต่ละประเภทมีกฎเฉพาะเกี่ยวกับความคุ้มครอง ดังนั้นการทำความรู้จักกับโรคที่รองรับ จะทำให้คุณมีข้อมูลนำมาใช้ในการตัดสินใจในการซื้อประกันได้มากขึ้น
2. ผลประโยชน์ความคุ้มครอง: ตรวจสอบผลประโยชน์ที่ครอบคลุมในแผนประกันสุขภาพ เช่น การรักษาตัวในโรงพยาบาล การพบแพทย์ ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ การดูแลป้องกัน และบริการสุขภาพจิต
3. ค่าลดหย่อนและค่าชดเชย: การทำความรู้จักในเรื่องของ จำนวนเงินค่าลดหย่อน (จำนวนเงินที่คุณจ่ายจนหมดก่อนที่ประกันจะเริ่ม) และค่าชดเชย เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ให้คุณเปรียบเทียบแผนกับตัวเลือกการหักลดหย่อนและการจ่ายร่วมแบบต่าง ๆ เพื่อค้นหาแผนที่เหมาะกับงบประมาณของคุณให้ได้มากที่สุด
4. ผู้ให้บริการในเครือข่าย: ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (โรงพยาบาล คลินิก) ที่รวมอยู่ในเครือข่ายของแผนการรักษา เพราะคุณจะได้มีตัวเลือกในการรักษามากขึ้น โดยเฉพาะในยามที่คุณไม่สบายในขณะที่เดินทางไปต่างจังหวัด หรือคุณมีอาการไม่สบายเพียงแค่เล็กน้อย ไม่อยากจะตรวจที่โรงพยาบาล ก็สามารถเดินทางไปตรวจที่คลินิกที่อยู่ในเครือข่าย ที่รองรับการรักษาในเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้
5. ต้นทุนเบี้ยประกันภัย: พิจารณาต้นทุนเบี้ยประกันภัยรายเดือนสำหรับแผนประกันสุขภาพ โดยการเบี้ยประกันภัยที่ต่ำ อาจจะดีต่อการผ่อนชำระรายเดือน แต่ความคุ้มครองที่คุณจะได้รับก็จะลดน้อยลงด้วย
ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดีว่า คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง หรือคุณมีความกังวลในเรื่องของการเป็นโรคหรือมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้แนะนำให้คุณเลือกซื้อเบี้ยประกันที่มีราคาสูงขึ้นมาอีกสักหน่อยดีกว่า จะได้ครอบคลุมและสร้างความอุ่นใจให้กับคุณในยามที่เจ็บป่วย
6. สามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เป็นผู้ป่วยในเท่านั้นหรือไม่: ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันสุขภาพส่วนใหญ่ มักจะรองรับอาการเจ็บป่วยสำหรับผู้ที่เป็นผู้ป่วยในที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่บางกรมธรรม์ก็อาจจะรองรับการรักษาอาการเจ็บป่วยในฐานะผู้ป่วยนอกด้วย แต่ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงกว่า
7. ชำระเบี้ยเป็นรายเดือนต่างกับรายปีหรือไม่: การชำระค่าเบี้ยประกันรายเดือนมักจะ ได้รับสิทธิ์ลดค่าเบี้ยประกัน ที่ถูกกว่าการชำระค่าเบี้ยประกันรายเดือน เพราะเป็นการจ่ายเต็มจำนวน ทำให้ทางบริษัทประกันมั่นใจในเรื่องของการจ่ายค่าเบี้ยประกัน จึงได้ให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าในส่วนนี้
8. ระยะเวลาในการรอคอยหลังจากซื้อประกันสุขภาพ: ส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาในการรอคอยประกันสุขภาพ โรคเล็ก ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 30 วัน ส่วนโรคที่มีความร้ายแรงค่อนข้างสูง ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้วิธีการรักษาอื่น อาจจะต้องใช้เวลาระยะเวลารอคอยนานกว่า 90 วัน ตัวประกันถึงจะเริ่มให้ความคุ้มครอง กรณีคุณเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมาในระหว่างช่วงระยะเวลารอคอย ประกันก็ยังไม่ให้ความคุ้มครอง
9. ประกันสุขภาพ คุ้มครองโรคอะไรบ้าง: ประกันสุขภาพเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องของอาการเจ็บป่วยที่มาจากสุขภาพโดยเฉพาะ เงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์นั้นก็จะแตกต่างกันไป บางกรมธรรม์อาจจะรองรับ ครอบคลุม 25 โรคร้ายแรง แต่บางกรมธรรม์ ก็อาจให้ความคุ้มครองมากถึง 30 โรคร้ายแรง
10. วงเงินในการรักษาแต่ละครั้ง มีการจำกัดวงเงินหรือไม่: ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูที่เงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ ยกตัวอย่างเช่น วงเงินในการเบิกค่าสินไหมประกันสุขภาพรายปี โดยรวมอาจจะอยู่ที่ 500,000 บาท และมีเงื่อนไข ในการเบิกเพื่อรักษาตัว ต่อครั้งอยู่ที่ 50,000 บาท เป็นต้น

มีประกันสุขภาพที่ได้รับจากทางภาครัฐอยู่แล้ว ทำไมถึงต้องซื้อประกันเอกชนเพิ่มเติม
คุณผู้อ่านหลาย ๆ คนอาจจะมีประกันสุขภาพพื้นฐานที่ได้รับจากทางภาครัฐอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ประกันสังคมมาตรา 33 ประกันสังคมมาตรา 39 แต่ทางมหาทรัพย์กฤษณ์ขอแนะนำว่าการมีประกันเอกชนเพิ่มเข้าไป ก็จะช่วยทำให้คุณนั้นเกิดได้รับประโยชน์ที่ดีขึ้นในยามที่เจ็บป่วย
- มีทางเลือก ในการเลือกโรงพยาบาลได้มากขึ้น โดยคุณอาจจะเลือกเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน ใกล้บ้านหรือเลือกประกันที่ครอบคลุมการเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชนในทุกจังหวัดของประเทศไทย เป็นต้น
- ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว เพราะประกันเอกชนเป็นประกันที่คุณได้มากกว่า ทำให้คุณได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารอนาน ให้ความสบายใจจากการได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุด

และนี่คือ 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในชีวิตของเราทุกคน เพราะการมีรากฐานที่มาจากสุขภาพที่แข็งแรง จะทำให้ชีวิตของคุณนั้นแข็งแรงตามไปด้วย ดังนั้นการลงทุนซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพดี ๆ สักตัว จึงเป็นอีกหนึ่งหลักประกันที่ดีที่สุดให้กับชีวิต